ปลูกผมถาวร – ผู้หญิง

ปลูกผมผู้หญิง หนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาสำหรับคุณผู้หญิงที่มีภาวะผมบางด้านหน้า, หัวเถิก, ไรผมน้อย ฯลฯ ซึ่งปัญหาที่กล่าวมาส่งผลให้รูปหน้าหรือกรอบหน้าของคุณผู้หญิงดูกว้างขึ้น ไม่สมองค์ประกอบ และจัดทรงผมยาก ทำให้เกิดความรำคาญใจและสูญเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น บริการปลูกผมสำหรับคุณผู้หญิงจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดในการแก้ไขปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเจน ซึ่งจะมีเทคนิคใดสำหรับคุณผู้หญิงบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน

ปลูกผมผู้หญิง | บริการปลูกผมถาวร

โดยหลัก ๆ แล้ว แม้ภาวะหัวล้านหรือผมบางมักจะแสดงออกในคุณผู้ชายมากกว่าเนื่องจากมีเพศชายมีฮอร์โมนที่เอื้อต่อการเกิดอาการศีรษะล้านรุนแรง แต่ก็ใช่ว่าคุณผู้หญิงจะไม่เกิดภาวะนี้ขึ้นเลย และในบางรายก็มีอาการที่แสดงชัดเจนพอ ๆ กับคุณผู้ชาย ส่งผลให้คุณผู้หญิงสูญเสียความมั่นใจอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนจะพยายามหาทางแก้ไข ซึ่งการปลูกผมก็เป็น 1 ในวิธีที่หลาย ๆ คนเลือก ซึ่งวันนีั The Prime จึงได้นำเทคนิคการปลูกผมสำหรับคุณผู้หญิงมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน

ปลูกผมผู้หญิง คืออะไร ต่างจากวิธีปลูกผมของผู้ชายยังไง เหมาะกับใครบ้าง?

การปลูกผมสำหรับผู้หญิง หรือ Female Hair Transplant คือ การปลูกผมในผู้หญิงซึ่งส่วนใหญ่ใช้แก้ปัญหาศีรษะเถิก ปรับกรอบหน้า ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ฯลฯ ซึ่งก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกับคุณผู้ชายเนื่องจากจะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ การปลูกผมของคุณผู้หญิงมักจะเป็นการปลูกผมที่ผมที่เกิดขึ้นใหม่นั้นต้องมีระยะการเตบโตที่นานขึ้นเพื่อที่จะเลี้ยงผมให้ยาวเพื่อปิดแผลนั่นเอง

ปลูกผมสำหรับผู้หญิง VS สำหรับผู้ชาย ต่างกันอย่างไร?

แม้ปัญหาผมบางด้านหน้า หรือ ไรผมด้านหน้าน้อย จะเป็นปัญหาที่สามารถเจอได้ทั้งชายและหญิง แต่สำหรับการปลูกผมนั้นทั้ง 2 เพศนี้จะมีวัตถุประสงค์ในการรักษาที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่การปลูกผมในคุณผู้ชายจะเน้นไปที่การรักษาภาวะหัวล้านจากกรรมพันธุ์ ผมบาง ซึ่งแพทย์จะทำการผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณหนึ่งไปปลูกอีกบริเวณหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ตรงจุดและดีขึ้น

แต่สำหรับการปลูกผมในคุณผู้หญิงนั้น จะเน้นไปที่ความสวยความงามเป็นหลัก โดยจะมีการแก้ไขปัญหาผมบาง หัวล้าน หัวเถิก เป็นเหตุผลรองลงมา เนื่องจากคุณผู้หญิงจะไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนส์ DHT (Dihydrotestosterone) หากเทียบกับฝั่งคุณผู้ชายที่ได้รับผลกระทบมากกว่า ดังนั้น การปลูกผมของทั้งสองฝ่ายจึงแตกต่างกันในจุดนนี้นั่นเอง

ปลูกผมผู้หญิง เหมาะกับใครบ้าง?

การปลูกผมไม่ได้เพียงเป็นแค่การรักษาภาวะ ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน หรือหัวเถิกเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและปรับปรุงบุคลิกภาพอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณมีคุณสมบัติดังนี้ คุณควรได้รับการรักษาด้วยการปลูกผม

  • ผู้ที่มีภาวะศีรษะล้าน
  • ผู้ที่มีลักษณะผมที่บาง
  • ผู้ที่สูญเสียเส้นผมบางส่วนจากการไฟไหม้ หรืออาการบาดเจ็บที่หนังศีรษะ
  • อีกทั้งการปลูกผมยังมักใช้เพื่อช่วยรักษาปัญหาศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ (Andorgenetic Alopecia) ที่เกิดจากการถ่ายทอดยีนศีรษะล้านระหว่างคนในครอบครัว รวมถึงยังใช้ควบคู่กับการรักษาในผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจนทำให้ศีรษะล้าน

โดยผู้เข้ารับบริการแต่ละเคสก็จะได้รับการรักษาที่แตกต่างกันออกไป เพราะแม้จะมีอาการแสดงและระดับความรุนแรงที่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เข้ารับบริการทุกคนจะสามารถใช้แนวทางและเทคนิคการปลูกผมที่เหมือนกันได้

ข้อดีของการปลูกผมสำหรับผู้หญิงในการแก้ไขปัญหากรอบหน้า

สำหรับข้อดีในการปลูกผมถาวรของสตรีนั้น คือการทำให้ความมั่นใจกลับมา เนื่องจากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า “ผม” เป็นสิ่งที่คุณผู้หญิงรักและมีความหวงแหนเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้องค์ประกอบโดยรวมของรูปลักษณ์ภายนอกมีความดูดีขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการกำหนดขอบเขตของกรอบหน้า หากไรผมหรือแนวผมทางด้านหน้ามีไม่มากพอก็อาจส่งผลให้กรอบหน้าดูกว้างขึ้น ไม่มีมิติ นั่นจึงทำให้การปลูกผมมีผลต่อการแก้ไขปัญหานี้อย่างชัดเจน

แนวทางการออกแบบวิธีการปลูกผมเพื่อสร้างกรอบหน้าให้ชัดขึ้นเป็นอย่างไร

เนื่องจากปัญหาผมบางด้านหน้า หรือบางมุมบริเวณหน้าผากมีไรผมน้อยส่งผลให้กรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าดูยาวกว้างหรือใหญ่มากขึ้น ดูไม่ได้สัดส่วน จนสร้างความไม่มั่นใจให้กับคุณผู้หญิง ดังนั้น การออกแบบของแพทย์ในการแก้ไขปัญหานี้จึงมักจะเน้นการการปลูกย้ายรากผมมายังบริเวณด้านหน้าจากปกติที่มักจะทำการปลูกถ่ายเซลล์รากผมที่บริเวณท้ายทอยเนื่องจากจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งแพทย์และคุณผู้หญิงที่เข้ารับบริการยังสามารถตัดสินใจร่วมกันในการออกแบบแนวผมให้เหมาะกับใบหน้าได้ตามที่ต้องการอีกด้วยนั่นเอง

ในกรณีที่มีหน้าผากกว้าง หรือ สูงเกินไป แพทย์อาจพิจารณาและแนะนำการปลูกไรผมด้านหน้าบริเวณส่วนของหน้าผาก ในลักษณะโค้งมนเป็นวงกลม เพื่อช่วยลดความยาวของใบหน้าที่มากจนเกินไปได้ และช่วยปกปิดความกว้างของหน้าผากได้อีกด้วย ทั้งนี้ยังทำให้ผมด้านหน้าดูหนา เวลารวบผมก็จะสวยงามมากขึ้น

ที่ The PRIME Medical Center มี เทคนิคการปลูกผมสำหรับผู้หญิง กี่วิธี อะไรบ้าง?

เทคนิคปลูกผมของ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL มีอยู่หลายเทคนิคด้วยกัน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

1.การปลูกผมเทคนิค FUE

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยการย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยไปปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคไร้แผลเย็บ ไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธี FUT (Follicular Unit Transplantation) ทั่วไปที่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว (Strip)  ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เนื่องจากเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กมาก

แล้วนำเซลล์รากผมออกมาปลูกถ่าย เพื่อให้ได้แนวไรผมที่ต้องการ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากที่ทำเสร็จ ใช้ระยเะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่นำมาปลูกถ่าย วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน ที่ไม่ต้องการใช้เวลาในการพักฟื้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเทคนิคนี้จะเห็นถึงความหนาแน่นของเส้นผมที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยทั่วไปใช้เวลาเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคสด้วย

2.การปลูกผมเทคนิค Advanced-FUE

การปลูกผมแบบ Advanced-FUE  เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจากเทคนิค FUE เดิม ที่ใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ขั้นตอนที่ทำเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความหนาแน่นที่มากกว่า ได้แนวไรผมที่ชิดมากกว่า เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนระยะเวลาที่ใช้นั้นจะมากกว่าแบบ FUE ประมาณ 1-2 ชั่วโมง

เทคนิคนี้ใช้ทักษะที่สูงกว่า และขั้นตอนที่ซับซ้อนขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ความหนาแน่นมากขึ้น ที่สำคัญยังคงไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากเช่นกัน ทั้งนี้ เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Hi Density เรียกได้ว่าเห็นความแตกต่างจากเทคนิค FUE ได้อย่างชัดเจน ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคสเช่นเดียวกัน

3.การปลูกผมเทคนิค DHI

การปลูกผมแบบ DHI หรือ Direct Hair Implantation เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ โดยแพทย์จะใช้กราฟ หรือกอผม 1-4 เส้นบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือ DHI Implanter กราฟในการดึงออกมาจากท้ายทอยและกราฟที่ปักออกไปสามารถทำได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาทำแยกสองขั้นตอนเหมือนวิธี FUE

ส่งผลให้ลดปัญหารากผม และเซลล์รากผมเกิดความเสียหายระหว่างปลูกผมได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืนไปทั้งศีรษะ เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวจะสามารถควบคุมทิศทาง ความลึก และมุมองศาในการปลูกได้แม่นยำ โดยทั่วไปอาจจะใช้เทคนิคนี้ร่วมกับการปลูกผมแบบ Advanced-FUE  เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และเหมาะกับแต่ละบุคคลได้อย่างดี โดยเทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ High Density โดยที่ได้เรื่องแนวไรผมที่สวยงาม เน้นความเป็นธรรมชาติ และมาตรฐานที่สูงขึ้นด้วย

4.การปลูกผมแบบ NHI

การปลูกผมแบบ NHI (Navamin Hair Transplant) เป็นเทคนิคเดียวในประเทศ ที่เป็นวิธีการเฉพาะของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9  ที่ได้รับมาตรฐานจากองค์กรระดับโลก JCI โดยเทคนิคนี้จะคล้ายคลึงกับการปลูกผมแบบ DHI แต่จะใช้เทคนิคการเจาะ และการปลูกถ่ายจากประเทศเกาหลี รวมถึงเครื่องมือ Implanter ระดับ Hi-End ซึ่งนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในแง่ของ เซลล์รากผมที่ไม่บอบช้ำ มีอัตราการรอดหลังการปลูกถ่ายสูงที่สุด ยังได้ในส่วนของการดูแลหลังการปลูกที่ง่ายกว่า แผลหายเร็วกว่าอีกด้วย 

ทั้งนี้ ยังมีผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ปราณีตที่สุด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดูแลง่ายที่สุด และมีมาตรฐานสูงที่สุดในบรรดาการปลูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ โดยแพทย์ที่ทำการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ จะต้องมีความเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของแนวไรผมของคนไข้ และการวาดแนวกรอบหน้าให้เหมาะสม และใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูกทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Ultra High Density ได้แนวไรผมที่สวยงามมากที่สุด เป็นธรรมชาติมากที่สุด และได้มาตรฐานที่สูงที่สุดอีกด้วย

รีวิวการปลูกผมสำหรับคุณผู้หญิง จาก The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

รีวิวปลูกผมผู้หญิง ด้วยเทคนิค FUE

รีวิวปลูกผมผู้หญิง ด้วยเทคนิค FUE

รีวิวปลูกผมผู้หญิง ด้วยเทคนิค FUE

อย่างไรก็ตาม ทรงผมเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้หญิงให้ความสำคัญ หากมีเส้นผมที่แข็งแรงและสุขภาพดี ย่อมสามารถจัดแต่งทรงผมได้ดั่งใจ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพภายนอกได้อย่างมาก ซึ่งการแก้ไขปัญหาผมเถิกผมบางด้านหน้า ด้วยวิธีการปลูกผมถาวรนั้น อาจได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปตามแต่สภาพความบางของเส้นผม และโครงสร้างของใบหน้า ซึ่งก่อนการปลูกผมในผู้หญิงนั้นจำเป็นจะต้องได้รับการตรวจประเมินเพื่อวางแผนการรักษาอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเทคนิควิธีการปลูกผมให้เพียงพอกับพื้นที่ที่จะทำการปลูกผม เพื่อคำนวณจำนวนเส้นผม (กราฟต์) ที่จำเป็นต้องใช้ให้ได้อย่างพอดี รวมไปถึงการออกแบบแนวไรผมให้เหมาะสมกับรูปหน้า เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดเฉพาะบุคคล จึงต้องอาศัยความชำนาญและประสบกาณ์ของทีมแพทย์ผู้ทำการปลูกรักษา

รวมทั้งยังต้องสามารถวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการของผู้หญิง และมีมุมมองทางด้านศิลปะร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีที่สุด โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติ ละมุนละไม และปลุกความเป็นผู้หญิงในตัวคุณออกมาให้ได้มากที่สุดด้วย