ผมข้างหน้าบางทำไง รักษาวิธีไหนได้ผลที่สุด

ผมข้างหน้าบางทำไง เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนตั้งไว้และต้องการทราบคำตอบ เนื่องด้วยกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ซึ่งผมข้างหน้าหรือบริเวณหน้าผากนั้นเรารู้จักกันในนามว่า “ไรผม” นั้นถือเป็นเส้นผมในบริเวณที่สำคัญไม่ต่างจากบริเวณอื่น ๆ เพราะสามารถเป็นตัวกำหนดโครงหน้าและความกว้างของหน้าผากของเราได้เลยทีเดียว ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะเป็นกังวลหากผมบริเวณด้านหน้าจะบางลงกว่าปกติ

ผมข้างหน้าบางทำไง มีวิธีไหนรักษาได้บ้าง

ถือเป็นเรื่องที่ทำเอาหลายคนหนักใจมากทีเดียวโดยเฉพาะคุณผู้หญิง เพราะการที่ผมด้านหน้าผากมีความบางนั้น นอกจากจะไม่มีไรผมช่วยพรางหน้าผากกว้างแล้ว ย่อมหนักใจเมื่อต้องรวบผมตึงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนจึงพยายามเลือกตัดหน้าม้าเพื่อมาปกปิดบริเวณด้านหน้า หรือ หน้าผากเพื่ออำพรางไม่ให้ดูโล่งและชัดเจนจนเกินไป

ผมบาง ผมร่วง บริเวณด้านหน้า เกิดจากอะไร?

  • อายุที่เพิ่มขึ้นและฮอร์โมน เมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนก็เปลี่ยนไปด้วย ทำให้ผมร่วงง่าย รวมถึงภาวะต่าง ๆ ที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยน เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาคุม หรืออาการของวัยหลังหมดประจำเดือน เป็นต้น
  • พันธุกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นยีนส์ผมบาง / หัวล้าน ที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นของสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้ ยังเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้อีกด้วย
  • พฤติกรรมเสี่ยง เช่นการมัดผมแน่นหรือตึงเกินไป การชอบดึงผมตนเอง (ภาวะทางจิต)
  • อื่น ๆ เช่น การรับประทานยาบางตัวเป็นประจำ, การลดน้ำหนัก, การมีไข้สูง ฯลฯ

ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสาเหตุที่แตกต่งกันออกไป ดังนั้นหากจะหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต้องเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แท้จริงเสียก่อน เพื่อที่จะได้แก้ไขอย่างตรงจุดที่สุด

แนวทางการรักษาสำหรับผู้มีปัญหาผมบาง

สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วิธีหลัก ๆ คือ

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย PRP

สำหรับการกระตุ้นเซลล์รากผมแบบ PRP PRP (Platelet Rich Plasma) หรือ Hair Therapy นั้น แพทย์จะทำการฉีดไปบริเวณส่วนที่ต้องการการฟื้นฟู และยังช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมที่หยุดทำงาน ให้กลับมาสร้างเส้นผมได้พร้อมบำรุงให้เกิดความแข็งแรง ผลลัพธ์ที่ออกมาจะสามารถเห็นความหนาแน่นของเส้นผมเพิ่มขึ้นได้ด้วยตาเปล่า

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย โปรตีนขนาดเล็ก Exosome

วิธีนี้เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ใช้องค์ประกอบของโปรตีน ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโปรตีนประมาณ 30-100 นาโนเมตร หรือมีขนาดที่เล็กกว่าเซลล์ในร่างกายเราถึง 1/1,000 เท่า ใน Exosome จะประกอบไปด้วยสารชีวโมเลเกุลมากมาย อาทิเช่น Cytokines, Growth factors, Micro RNA ฯลฯ ที่มากกว่า PRP 1,000 เท่าตัว ทำให้เกิดการกระตุ้น ฟื้นฟู และมีการซ่อมแซมเซลล์รากผมได้อย่างดีเยี่ยม

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย MESO Hair

การทำ MESO Hair เป็นการผลักตัวยา และวิตามินเข้าบำรุงเซลล์รากผม เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางหลุดร่วง ส่วนมากเกิดจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การดัดย้อมด้วยเคมีที่รุนแรง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่ง MESO Hair เป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เซลล์รากผมได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ เสริมสร้างการเกิดใหม่ของเส้นผมและชะลอการหลุดร่วงให้เส้นผมมีอายุยืนยาวมากขึ้น

แนวทางการรักษาสำหรับผู้ที่มีภาวะศีรษะล้านจากพันธุกรรม

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าภาวะศีรษะล้านนั้นเป็นสาเหตุที่ไม่รักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น หากผู้ประสบปัญหาพบว่าตนเองนั้นมีภาวะนี้และมันกำลังแสดงอาการอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยวิธีการปลูกผม เพราะถึงแม้จะไม่หาขาด แต่ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการและไม่ทำให้ผูประสบปัญหาเสียความมั่นใจ

ซึ่งเทคนิคการปลูกผมก็มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น…

เทคนิค FUE

การปลูกผมแบบ FUE เป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยการย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยไปปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการเทคนิคนี้เป็นเทคนิคไร้แผลเย็บ ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เนื่องจากเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กมากแล้วนำเซลล์รากผมออกมาปลูกถ่าย เพื่อให้ได้แนวไรผมที่ต้องการ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากที่ทำเสร็จ ใช้ระยเะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่นำมาปลูกถ่าย วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน ที่ไม่ต้องการใช้เวลาในการพักฟื้นเป็นอย่างมาก เทคนิคนี้จะเห็นถึงความหนาแน่นของเส้นผมที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยทั่วไปใช้เวลาเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคส

เทคนิค Advance- FUE

การปลูกผมแบบ Advance-FUE เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจากเทคนิค FUE เดิม ที่ใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ขั้นตอนที่ทำเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความหนาแน่นที่มากกว่า ได้แนวไรผมที่ชิดมากกว่า เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนระยะเวลาที่ใช้นั้นจะมากกว่าแบบ FUE ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เทคนิคนี้ใช้ทักษะที่สูงกว่า และขั้นตอนที่ซับซ้อนขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ความหนาแน่นมากขึ้น ที่สำคัญยังคงไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากเช่นกัน โดยเทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Hi Density เรียกได้ว่าเห็นความแตกต่างจากเทคนิค FUE ได้อย่างชัดเจน ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคส

เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation)

การปลูกผมแบบ DHI เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ โดยแพทย์จะใช้กราฟ หรือกอผม 1-4 เส้นบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือ DHI Implanter กราฟในการดึงออกมาจากท้ายทอยและกราฟที่ปักออกไปสามารถทำได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาทำแยกสองขั้นตอนเหมือนวิธี FUE ส่งผลให้ลดปัญหารากผม และเซลล์รากผมเกิดความเสียหายระหว่างปลูกผมได้เป็นอย่างดีรวมถึงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืนไปทั้งศีรษะ เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวจะสามารถควบคุมทิศทาง ความลึก และมุมองศาในการปลูกได้แม่นยำ โดยทั่วไปอาจจะใช้เทคนิคนี้ร่วมกับการปลูกผมแบบ FUE Advance เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และเหมาะกับแต่ละบุคคลได้อย่างดี เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Hi Density โดยที่ได้เรื่องแนวไรผมที่สวยงาม เน้นความเป็นธรรมชาติ และมาตรฐานที่สูงขึ้น

เทคนิค NHI (Navamin Hair Implant) จาก Vital Glow Clnic

การปลูกผมแบบ NHI เป็นเทคนิคเดียวในประเทศ ที่เป็นวิธีการเฉพาะของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ที่ได้รับมาตรฐานจากองค์กรระดับโลก JCI โดยเทคนิคนี้จะคล้ายคลึงกับการปลูกผมแบบ DHI แต่จะใช้เทคนิคการเจาะ และการปลูกถ่ายจากประเทศเกาหลี รวมถึงเครื่องมือ Implanter ระดับ Hi-End ซึ่งนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในแง่ของ เซลล์รากผมที่ไม่บอบช้ำ มีอัตราการรอดหลังการปลูกถ่ายสูงที่สุด ยังได้ในส่วนของการดูแลหลังการปลูกที่ง่ายกว่า แผลหายเร็วกว่ารวมถึงผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ปราณีตที่สุด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดูแลง่ายที่สุด และมีมาตรฐานสูงที่สุดในบรรดาการปลูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ

โดยแพทย์ที่ทำการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ จะต้องมีความเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของแนวไรผมของคนไข้ และการวาดแนวกรอบหน้าให้เหมาะสม และใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูกทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Ultra Hi Density ได้แนวไรผมที่สวยงามมากที่สุด เป็นธรรมชาติมากที่สุด และได้มาตรฐานที่สูงที่สุดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาสำหรับผู้มีภาวะผมบางเท่านั้น โดยยังมีอีกหลายหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับ อาการ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและประเมิน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็น 3 อย่างนี้ หรือ วิธีอื่นๆ
ก็เป็นได้ เช่น ยา วิตามิน อาหารเสริม สเปรย์ เซชั่น แชมพู ฉายแสง การฉีดตัวยาอื่น ๆ หรือทรีตเม้นท์อื่น ๆ ด้วย เป็นต้น

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บริการปลูกผม จาก Vital Glow Clinic

รีวิวจากผู้เข้ารับบริการปลูกผมจาก Vital Glow Clinic

กราฟผมคืออะไร กราฟผมมีกี่ชนิด และโดยทั่วไปกราฟผมจะมีผมกี่เส้น

[sc name=”blog-footer”][/sc]



ทำไมต้องปลูกผมที่ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

เพราะปลูกผมในโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลนวมินทร์9 ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล JCI, USA โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม และบุคลากรทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยเพราะทำในโรงพยาบาลที่ได้รับรองมาตรฐานสากลระบบโลก JCI ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยความชำนาญจากแพทย์ดังที่ได้กล่าวไป จึงส่งผลให้มีผลข้างเคียงน้อยตามไปด้วย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาล พร้อมทั้งการรับประกัน 1 ปีเต็ม ติดตามอาการและดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกผมไม่มีค่าใช้จ่าย ปลูกไม่ขึ้น ปลูกให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำซ้ำ อยู่กับเราไปตลอด เส้นผมขึ้นใหม่เป็นเส้นผมจริงตามธรรมชาติ ที่แข็งแรงเนื่องจากเป็นเส้นผมจากบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นเส้นผมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน หลุดร่วงช้ากว่าวงจรปกติ บริการ ปลูกผม เส้นผมและหนังศีรษะ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

1). The PRIME สาขา โรงพยาบาลนวมินทร์9
Facebook: The PRIME Medical Center โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 (www.facebook.com/theprimenavamin9)
Instagram: the.prime.medical (www.instagram.com/the.prime.medical)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 095-750-5555
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)

2). The PRIME พระโขนง
Facebook: The PRIME Medical Center สาขา summer hill พระโขนง (www.facebook.com/the.prime.summerhill)
Instagram: the.prime.sukhumvit (www.instagram.com/the.prime.sukhumvit)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 082-479-4666
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)