รักษาหัวเถิก มีวิธีไหนบ้าง ต่างจากการรักษาหัวล้านหรือไม่?

รักษาหัวเถิก ต้องใช้วิธีไหน รูปแบบการรักษาแตกต่างจากการรักษาของปัญหาอื่น ๆ หรือเปล่า? เชื่อว่าเป็นที่ผู้ประสบปัญหาหลาย ๆ คนต้องการทราบคำตอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะแม้จะมีภาวะอาการที่คล้ายกันไม่ว่าจะเป็น หัวเถิก หัวล้าน ผมร่วง ผมบาง ก็คือการมีผมน้อยหรือสูญเสียผมจนทำให้มีพื้นที่บนศีรษะเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ดี จากที่ได้กล่าวไปว่าภาวะหัวเถิกนั้นมีอาการที่แสดงออกมาที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีสาเหตุที่อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่ ดังนั้น เราควรทราบสาเหตุของภาวะหัวเถิกที่เรามีเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถระบุแนวทางการรักษาที่ตรงจุด

รักษาหัวเถิก มีวิธีไหนบ้าง ต้องมีความรุนแรงระดับใดจึงต้องเข้ารับการรักษา

แม้จะไม่ได้เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นผมโดยตรง แต่ก็ทำให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้อยู่รู้สึกเสียความมั่นใจอยู่ไม่ใช่น้อย เนื่องจากมีพื้นที่ว่างบริเวณหน้าผากมากกว่าปกติ ซึ่งมีสาเหตุมากจากการร่นสูงของหน้าผาก เส้นผมบริเวณด้านหน้าหลุดร่วงจนกลายเป็นตัว M บริเวณกรอบหน้า ส่งผลให้เมื่อมองเผิน ๆ ผู้ที่ประสบปัญหาหัวเถิกดูมีหน้าผากที่กว้างกว่าปกตินั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาวะอาการแล้วก็สามารถบอกได้เลยว่าปัญหานี้ใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด และหลายคนที่มีหัวเถิกก็อาจจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่ามีภาวะนี้มาจากอะไรกันแน่ ในบทความนี้ Vital Clinic มีคำตอบมาฝากกัน

สาเหตุของ “หัวเถิก” มีอะไรบ้าง?

ก่อนอื่นเลยทุก ๆ คนต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเรามีภาวะหัวเถิกจริงหรือไม่ โดยสามารถทำการวัดเองได้ ซึ่งหาระยะห่างระหว่างคิ้วและไรผมบริเวณหน้าผ่างห่างกันเกิน 10-11 เซนติเมตร ก็สามารถระบุได้เลยว่าเรากำลังมีภาวะหัวเถิกอยู่

อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวไปว่าวิธีการรักษาหัวเถิกนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นเราต้องรู้ถึงต้นตอของปัญหาของเราเสียก่อน ซึ่งต้อตอดังกล่าวมาจากอะไรได้บ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน

1. หัวเถิกจากกรรมพันธุ์

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่หลาย ๆ คนเป็นกังวลเนื่องจากการมีภาวะหัวเถิกจากกรรมพันธุ์นั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพราะเป็นยีนส์ที่ถูกส่งต่อกันมาจากคนในครอบครัว หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามันเป็นสาเหตุที่มาจากตัวเราเอง นั่นจึงทำให้ภาวะที่มาจากสาเหตุนี้ไม่มีหนทางการรักษาให้หายขาดนั่นเอง ทั้งนี้ ภาวะหัวเถิกจากกรรมพันธุ์มักจะมีภาวะรุนแรงในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนื่องด้วยฮอร์โมนเพศอย่าง DHT (Dihydrotestosterone) ไปทำปฏิกิริยากับฮอร์โมน Androgen ส่งผลให้รากผมอ่อนแอลง เกิดการร่วงและบางตามไปในที่สุด

2. หัวเถิกจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

เป็นสาเหตุที่ถ้าผู้ที่กำลังประสบปัญหาสามารถปรับพฤติกรรมตนเองได้ ก็จะสามารถลดภาวะหัวเถิกลงได้อย่างมากทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่หลาย ๆ คนมักมองข้ามสาเหตุนี้ไปทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด ซึ่งพฤติกรรมที่ส่งผลให้ผู้ประสบปัญหามีภาวะหัวเถิกได้อย่างไม่รู้ตัว เช่น รวบผมตึงจนเกินไป, ใช้สารเคมีบ่อย ๆ เช่น ดัด ย้อม, ใช้ความร้อนกับผม เช่น การไดร์ผม หนีบผม ฯลฯ ซึ่งถ้าหากปรับพฤติกรรมดังกล่าวได้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะดังกล่าวได้เช่นกัน

3. หัวเถิกจากความเครียด

หลาย ๆ คนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า “ความเครียด” ก็ถือว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราเกิดภาวะหัวเถิกได้ จากคำพูดขำ ๆ ที่ว่า เครียดจนผมร่วง นั้นไม่เกินจริง เนื่องจากในขณะที่เราเครียดนั้นจะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า Cortisol หลั่งออกมามากกว่าปกติซึ่งทำให้เส้นผมของเรานั้นอยู่ในระยะ “พัก” นานขึ้นกว่าปกติ ซึ่งปรับพฤติกรรมนี้ได้ ผมของเราก็ฟื้นฟูด้วยเช่นกัน

4. หัวเถิกจากภาวะผิดปกติบางอย่างของร่างกาย

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นโรคภัยไข้เจ็บของร่างกายที่ส่งผลให้เกิดผมร่วงจนเกิดเป็นภาวะหัวเถิก ซึ่งโรคภัยดังกล่าวมักจะเป็นโรคที่ส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงโดยตรง เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคไทรอยด์ และไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น

5. หัวเถิกจากปัญหาหนังศีรษะและเส้นผม

ซึ่งปัจจัยของปัญหาส่วนใหญ่มักจะมาจากหนังศีรษะที่อาจเกิดจากการมีเชื้อรา แบคทีเรีย การอักเสบต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดผมร่วงได้ วิธีในการแก้ไขคือเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาก็สามารถดีขึ้นได้

แนวทางการแก้ไขปัญหาหัวเถิกที่ผู้ประสบปัญหาสงสัย มีวิธีการรักษาที่ต่างจากการรักษาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรือไม่?

มาถึงคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยนั่นคือการรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาหัวเถิกนั้นแตกต่างจากผู้มีปัญหัวล้าน หรือปัญหาอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่า วิธีการรักษาของภาวะหัวเถิกจะมีความคล้ายคลึงกับปัญหาอื่น ๆ ซึ่งจะอิงกับสาเหตุของปัญหานั้น ๆ โดยส่วนใหญ่อาจเป็น การปลูกผม ซึ่งสามารถใช้กับผู้ที่มีภาวะหัวเถิกจากกรรมพันธุ์ได้ หรือหัวเถิกจากสาเหตุอื่น ๆ ได้เช่นกันแล้วแต่กรณี

การปลูกผม แบ่งออกเป็นกี่วิธี?

การรักษาโดยการปลูกผมนั้นแบ่งออกได้หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งจะถูกแบ่งออกตามประเภทของผู้ประสบปัญหาในแบบต่าง ๆ ดังนี้

วิธีรักษาสำหรับผู้ประสบปัญหาหัวล้าน (ไม่มีผมเลย)

แบ่งออกได้เป็น 4 วิธีหลัก ๆ คือ

1. เทคนิค FUE

การปลูกผมแบบ FUE เป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยการย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยไปปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการเทคนิคนี้เป็นเทคนิคไร้แผลเย็บ ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เนื่องจากเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กมากแล้วนำเซลล์รากผมออกมาปลูกถ่าย เพื่อให้ได้แนวไรผมที่ต้องการ

2. เทคนิค Advance- FUE

การปลูกผมแบบ Advance-FUE เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจากเทคนิค FUE เดิม ที่ใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ขั้นตอนที่ทำเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความหนาแน่นที่มากกว่า ได้แนวไรผมที่ชิดมากกว่า เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนระยะเวลาที่ใช้นั้นจะมากกว่าแบบ FUE ประมาณ 1-2 ชั่วโมง

3. เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation)

การปลูกผมแบบ DHI เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ โดยแพทย์จะใช้กราฟ หรือกอผม 1-4 เส้นบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือ DHI Implanter กราฟในการดึงออกมาจากท้ายทอยและกราฟที่ปักออกไปสามารถทำได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาทำแยกสองขั้นตอนเหมือนวิธี FUE ส่งผลให้ลดปัญหารากผม และเซลล์รากผมเกิดความเสียหายระหว่างปลูกผมได้เป็นอย่างดีรวมถึงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืนไปทั้งศีรษะ

4. เทคนิค NHI (Navamin Hair Implant)

การปลูกผมแบบ NHI เป็นเทคนิคเดียวในประเทศ ที่เป็นวิธีการเฉพาะของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ที่ได้รับมาตรฐานจากองค์กรระดับโลก JCI โดยเทคนิคนี้จะคล้ายคลึงกับการปลูกผมแบบ DHI แต่จะใช้เทคนิคการเจาะ และการปลูกถ่ายจากประเทศเกาหลี รวมถึงเครื่องมือ Implanter ระดับ Hi-End ซึ่งนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในแง่ของ เซลล์รากผมที่ไม่บอบช้ำ มีอัตราการรอดหลังการปลูกถ่ายสูงที่สุด ยังได้ในส่วนของการดูแลหลังการปลูกที่ง่ายกว่า แผลหายเร็วกว่ารวมถึงผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ปราณีตที่สุด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดูแลง่ายที่สุด

วิธีรักษาสำหรับผู้ประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวเถิก (มีผมอยู่บ้าง แต่อาจจะมีน้อย)

แบ่งออกได้เป็น 3 วิธีหลัก ๆ คือ

1. การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย PRP

การทำ PRP (Platelet Rich Plasma) หรือ Hair Therapy เป็นการซ่อมแซมเซลล์รากผมที่อ่อนแอ ให้กลับแข็งแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำ PRP นี้ถือเป็นการปลูกผมในรูปแบบหนึ่ง กับคนไข้ที่มีภาวะปัญหาผมบาง และหลุดร่วงง่ายแต่จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้

2. การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย MESO Hair

การทำ MESO Hair เป็นการผลักตัวยา และวิตามินเข้าบำรุงเซลล์รากผม เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางหลุดร่วง ส่วนมากเกิดจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การดัดย้อมด้วยเคมีที่รุนแรง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่ง MESO Hair เป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เซลล์รากผมได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ เสริมสร้างการเกิดใหม่ของเส้นผมและชะลอการหลุดร่วงได้เป็นอย่างดี

3. การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย โปรตีนขนาดเล็ก Exosome

วิธีนี้เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ใช้องค์ประกอบของโปรตีน ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโปรตีนประมาณ 30-100 นาโนเมตร หรือมีขนาดที่เล็กกว่าเซลล์ในร่างกายเราถึง 1/1,000 เท่า ใน Exosome จะประกอบไปด้วยสารชีวโมเลเกุลมากมาย อาทิเช่น Cytokines, Growth factors, Micro RNA ฯลฯ ที่มากกว่า PRP 1,000 เท่าตัว ทำให้เกิดการกระตุ้น ฟื้นฟู และมีการซ่อมแซมเซลล์รากผมได้อย่างดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาสำหรับผู้มีภาวะผมบางเท่านั้น โดยยังมีอีกหลายหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับ อาการ ของแต่ละคนด้วย โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและประเมิน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็น 3 อย่างนี้ หรือ อื่น ๆ ทั้ง ยา วิตามิน อาหารเสริม สเปรย์ เซชั่น แชมพู ฉายแสง ฉีดตัวยาอื่น ๆ หรือทรีตเม้นท์อื่น ๆ ด้วย เป็นต้น ดังนั้น จึงควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อความมั่นใจและเหมาะสมกับเราที่สุด

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บริการปลูกผม จาก Vital Glow Clinic

รีวิวจากผู้เข้ารับบริการปลูกผมจาก Vital Glow Clinic

กราฟผมคืออะไร กราฟผมมีกี่ชนิด และโดยทั่วไปกราฟผมจะมีผมกี่เส้น



ทำไมต้องปลูกผมที่ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

เพราะปลูกผมในโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลนวมินทร์9 ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล JCI, USA โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม และบุคลากรทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยเพราะทำในโรงพยาบาลที่ได้รับรองมาตรฐานสากลระบบโลก JCI ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยความชำนาญจากแพทย์ดังที่ได้กล่าวไป จึงส่งผลให้มีผลข้างเคียงน้อยตามไปด้วย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาล พร้อมทั้งการรับประกัน 1 ปีเต็ม ติดตามอาการและดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกผมไม่มีค่าใช้จ่าย ปลูกไม่ขึ้น ปลูกให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำซ้ำ อยู่กับเราไปตลอด เส้นผมขึ้นใหม่เป็นเส้นผมจริงตามธรรมชาติ ที่แข็งแรงเนื่องจากเป็นเส้นผมจากบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นเส้นผมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน หลุดร่วงช้ากว่าวงจรปกติ บริการ ปลูกผม เส้นผมและหนังศีรษะ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

1). The PRIME สาขา โรงพยาบาลนวมินทร์9
Facebook: The PRIME Medical Center โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 (www.facebook.com/theprimenavamin9)
Instagram: the.prime.medical (www.instagram.com/the.prime.medical)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 095-750-5555
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)

2). The PRIME พระโขนง
Facebook: The PRIME Medical Center สาขา summer hill พระโขนง (www.facebook.com/the.prime.summerhill)
Instagram: the.prime.sukhumvit (www.instagram.com/the.prime.sukhumvit)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 082-479-4666
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)